MX-S905
ฟิล์มหนา | 5.5 mil |
แสงส่องผ่าน | 5% |
ลดรังสี IR | 90% |
ลดรังสี UV | 99% |
สะท้อนแสง | 5% |
ค่า SHGC | 0.34 |
ลดความร้อน | 93% |
MX-S925
ฟิล์มหนา | 5.5 mil |
แสงส่องผ่าน | 25% |
ลดรังสี IR | 88% |
ลดรังสี UV | 99% |
สะท้อนแสง | 5% |
ค่า SHGC | 0.43 |
ลดความร้อน | 82% |
MX-S940
ฟิล์มหนา | 5.5 mil |
แสงส่องผ่าน | 40% |
ลดรังสี IR | 86% |
ลดรังสี UV | 99% |
สะท้อนแสง | 6% |
ค่า SHGC | 0.49 |
ลดความร้อน | 73% |
MX-S970
ฟิล์มหนา | 5.5 mil |
แสงส่องผ่าน | 70% |
ลดรังสี IR | 86% |
ลดรังสี UV | 99% |
สะท้อนแสง | 7% |
ค่า SHGC | 0.55 |
ลดความร้อน | 57% |
การเลือกความเข้มฟิล์มแนะนำว่าให้แยกเป็น 2 เรื่อง คือ
ความเข้ม / ต้องดูก่อนว่าเราชอบแบบไหน ชอบความเป็นส่วนตัวก็เข้มหน่อย แต่อย่าเข้มจนเกินไปเพราะกลางคืน กับเวลาฝนตกจะลำบาก
สเปค / หลักๆ ที่จะต้องดูคือ กัน UV กัน infrared ตัวนี้สำคัญ ทำไม?
UV มีผลเรื่องความร้อน – 3% แต่มันทำให้เราเป็นมะเร็ง + ถ้า (ทุกยี่ห้อก็เคลม 99% เหมือนกันหมด)
แสง มีผลเรื่องความร้อน – 44% ก็ขึ้นอยู่กับที่คุณเลือกความเข้มนั่นแหละครับ เข้มมากก็กันมาก
IR (infrared) มีผลเรื่องความร้อน – 53% ตัวนี้แหละครับที่สำคัญ เวลาเราแสบหน้า แสบแขนเวลาขับรถสู้แดด
ดังนั้น ฟิล์มดำ ก็ไม่ช่วยเรื่องความร้อนทั้งหมด ฟิล์มใสก็ไม่ได้กันร้อนได้ดีสุดยอด ต้องดู spec ทุกอย่างรวมกัน
ปล. เรื่องสะท้อนแสง ควรดูค่าสะท้อนแสงภายนอก/ภายในด้วย ที่เราเห็นสะท้อนในรถ และรบกวนสายตาเรา ก็เกิดจากค่าสะท้อนแสงของฟิล์มภายในรถเนี่ยแหละครับ
หมายเหตุ:
ความหนา 1 mil = 25 ไมครอน
ค่าสัมปะสิทธิ์การบังแดด Shading Coefficient คือ ค่าแสดงการถ่ายเทความร้อนที่เกิดจากแสงอาทิตย์ที่สามารถผ่านเข้ามาในตัวอาคาร โดยจะเทียบกับกระจกใสหนา 3 มิลลิเมตร โดยมีค่าระหว่าง 0-1 ค่านี้ยิ่งน้อยยิ่งกันการถ่ายเทความร้อนได้ดี